ฝังยาคุมดีไหม ได้ผลกี่เปอร์เซ็นต์ ฝังยาคุมมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง

Listen to this article
Ready
ฝังยาคุมดีไหม ได้ผลกี่เปอร์เซ็นต์ ฝังยาคุมมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง
ฝังยาคุมดีไหม ได้ผลกี่เปอร์เซ็นต์ ฝังยาคุมมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง









































ฝังยาคุมดีไหม ได้ผลกี่เปอร์เซ็นต์ ฝังยาคุมมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง
















ฝังยาคุมดีไหม ได้ผลกี่เปอร์เซ็นต์ ฝังยาคุมมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง





















































คู่มือคุณแม่มือใหม่ สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ พร้อมเคล็ดลับดูแลตัวเอง




















บทความ




















ก.ย. 16, 2025




















6นาที










การฝังยาคุมกำเนิดเป็นวิธีคุมกำเนิดที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพสูง และใช้ได้อย่างยาวนาน การฝังยาคุมจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีคุมกำเนิดที่ได้รับความสนใจในหมู่คุณแม่ แต่ถ้าคุณแม่คนไหนที่ยังมีความลังเลและอยากหาข้อมูลเพิ่มเติม สามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฝังยาคุมเบื้องต้นได้เลย และควรขอคำแนะนำจากคุณหมอเพื่อหาวิธีการฝังยาคุมที่เหมาะสมกับคุณแม่มากที่สุด





























เก็บไว้อ่านคราวหน้า





































ฝังยาคุมดีไหม ได้ผลกี่เปอร์เซ็นต์ ฝังยาคุมมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง
































































คำถามที่พบบ่อย
































มีวิธีคุมกำเนิดอื่นใดที่สามารถพิจารณาได้นอกจากการฝังยาคุม?







มีหลายวิธีคุมกำเนิดให้เลือก เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิด การฉีดยาคุมกำเนิด ห่วงอนามัย ถุงยางอนามัย และการทำหมัน การเลือกวิธีที่ดีที่สุดขึ้นอยู่กับสุขภาพ ร่างกาย ไลฟ์สไตล์ และความต้องการของแต่ละบุคคล ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำ























การฝังยาคุมมีผลต่อความสัมพันธ์ทางเพศหรือไม่?







ไม่ การฝังยาคุมไม่มีผลต่อความต้องการทางเพศหรือความพึงพอใจทางเพศ อย่างไรก็ตาม อาการข้างเคียงบางอย่าง เช่น ช่องคลอดแห้ง อาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ทางเพศได้เล็กน้อย ควรปรึกษาแพทย์หากกังวลเรื่องนี้























ค่าใช้จ่ายในการถอดยาคุมหลังจากหมดอายุมีค่าใช้จ่ายเท่าใด?







ค่าใช้จ่ายในการถอดยาคุมหลังหมดอายุขึ้นอยู่กับสถานพยาบาลและประเภทของประกันสุขภาพ ควรสอบถามที่สถานพยาบาลที่คุณได้รับการฝังยาคุมเพื่อทราบรายละเอียดค่าใช้จ่ายที่ชัดเจน





































 

สรุป

  • การฝังยาคุม (Contraceptive Implant) เป็นการฝังหลอดยาเล็ก ๆ ฝังไว้ใต้ท้องแขนด้านในให้ตัวยาค่อย ๆ ซึมเข้าไปสู่ร่างกายไปยับยั้งการตกไข่ การฝังยาคุมจึงสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้สูงสุดที่ 99.9 เปอร์เซ็นต์
  • การฝังยาคุมมีอยู่ 2 แบบด้วยกัน คือ การฝังยาคุมแบบ 1 แท่ง และการฝังยาคุมแบบ 2 แท่ง ขึ้นอยู่กับชนิดของยา โดยที่มีระยะเวลาในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้นานถึง 3-5 ปี
  • การฝังยาคุมอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง คือ ประจำเดือนมาไม่ปกติ มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ปวดศีรษะ เจ็บเต้านม บางคนอาจมีอารมณ์แปรปรวน ส่วนบริเวณผิวหนังที่ฝังยาคุมอาจเกิดอาการบวม แดง ระคายเคืองขึ้นมาได้

 

เลือกอ่านตามหัวข้อ

  • การฝังยาคุม มีทั้งหมดกี่แบบ
  • ฝังยาคุมให้ผลชัวร์กี่เปอร์เซ็นต์
  • การฝังยาคุม เหมาะกับใครบ้าง
  • ฝังยาคุมอยู่ได้นานกี่ปี
  • หลังฝังยาคุม จะมีอาการอย่างไร
  • ข้อดี-ข้อเสีย ของการฝังยาคุม มีอะไรบ้าง
  • ผลข้างเคียงของการฝังยาคุม
  • การฝังเข็มยาคุม ทำให้อ้วนจริงไหม
  • คุณแม่อยู่ในช่วงให้นมลูก ฝังยาคุมได้ไหม
  • ว่าที่คุณแม่วางแผนจะมีลูก ควรเอาเข็มฝังยาคุมออกตอนไหน
  • ฝังยาคุมแพงไหม มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง

 

การฝังยาคุม มีทั้งหมดกี่แบบ

การฝังยาคุม (Contraceptive Implant) เป็นวิธีการคุมกำเนิดแบบชั่วคราว มีอยู่ 2 แบบด้วยกันที่แบ่งตามชนิดของยา คือ การฝังยาคุมแบบ 1 แท่ง และการฝังยาคุมแบบ 2 แท่ง โดยการฝังยาคุมทั้ง 2 แบบนี้ เป็นการฝังหลอดยาเล็ก ๆ ที่มีการบรรจุฮอร์โมนไว้ยาวประมาณ 3-4 เซนติเมตร ขนาดใกล้เคียงกับไม้จิ้มฟัน แล้วนำไปฝังไว้ใต้ท้องแขนด้านในภายในระยะเวลา 7 วันแรกของการมีรอบเดือน เมื่อฝังยาเสร็จเรียบร้อยแล้วตัวยาจะค่อย ๆ ซึมเข้าสู่ร่างกาย เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของฟองไข่ ทำให้ไม่เกิดการตกไข่ ส่วนบริเวณปากมดลูกจะเกิดเป็นมูกเหนียวข้นขึ้นมา เพื่อป้องกันให้อสุจิเข้าไปยังโพรงมดลูกได้ยากขึ้น อีกทั้งฤทธิ์ยายังทำให้โพรงมดลูกมีสภาพที่ไม่เหมาะสำหรับการฝังตัวอ่อน ทำให้ในช่วงการฝังยาคุมสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้นั่นเอง

 

ฝังยาคุมให้ผลชัวร์กี่เปอร์เซ็นต์

การฝังยาคุม เป็นหนึ่งในวิธีของการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ที่สูงสุดที่ 99.9 เปอร์เซ็นต์ โดยมีโอกาสที่ล้มเหลวอยู่ที่ 0.05-0.1 เปอร์เซ็นต์ หรือ 1 ใน 2,000 คนเท่านั้นเอง

 

การฝังยาคุม เหมาะกับใครบ้าง

  • การฝังยาคุม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเว้นการมีลูก 3 ปีขึ้นไป เนื่องจากการฝังยาคุม สามารถทำได้เลยตั้งแต่คลอดลูก
  • การฝังยาคุม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงในระยะยาว
  • การฝังยาคุม เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่สามารถใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจนได้

 

อย่างไรก็ตาม การฝังยาคุมควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ เนื่องจากการฝังยาคุมอาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นมะเร็งเต้านม โรคตับรุนแรง และโรคหลอดเลือดดำอุดตัน รวมถึงผู้ที่ใช้ยาบางประเภทค่ะ

 

ฝังเข็มยาคุมอยู่ได้นานกี่ปี

การฝังยาคุมกำเนิดทั้งแบบ 1 แท่ง และแบบ 2 แท่ง จะมีระยะเวลาในการออกฤทธิ์ได้นานถึง 3-5 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของยา เมื่อยาหมดฤทธิ์แล้วจะต้องนำหลอดยาที่ฝังอยู่ออกและเปลี่ยนหลอดใหม่ เนื่องจากหลอดยาไม่สามารถสลายไปได้เอง

 

หลังฝังยาคุม จะมีอาการอย่างไร

หลังจากที่มีการฝังยาคุมจะทำให้คุณผู้หญิงมีประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือมาแบบกะปริบกะปรอย มีน้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้น มีอาการปวดศีรษะ เจ็บเต้านม บางคนอาจมีอารมณ์แปรปรวน ส่วนบริเวณผิวหนังที่ฝังยาคุมอาจเกิดอาการบวม แดง ระคายเคืองขึ้นมาได้

 

ข้อดี-ข้อเสีย ของการฝังยาคุม มีอะไรบ้าง

ข้อดีของการฝังยาคุม

  • เป็นวิธีการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูง
  • มีผลข้างเคียงน้อย
  • ไม่มีผลต่อการให้นมของคุณแม่
  • คุมกำเนิดได้นาน 3-5 ปี
  • ไม่ต้องทานยาทุกวัน ไม่ต้องฉีดยา และไม่ต้องเช็กสายห่วงคุมกำเนิด
  • หลังถอดแล้วสามารถกลับมาตั้งครรภ์ได้เร็ว โดย 90 เปอร์เซ็นต์ จะมีไข่ตกภายใน 1 เดือน
  • สามารถถอดแล้วเปลี่ยนเป็นวิธีการคุมกำเนิดแบบอื่นได้
  • สามารถลดอาการปวดประจำเดือน และประจำเดือนมามากได้

 

ข้อเสียของการฝังยาคุม

  • ไม่สามารถหยุดยาหรือถอดยาได้เอง
  • อาจมีผลข้างเคียงบริเวณที่ฝังยา เช่น บวม แดง ระคายเคือง เป็นต้น
  • ยาออกฤทธิ์ได้นาน เมื่อต้องการถอดหลอดยาออกต้องรอให้ระดับยาลดลงก่อน
  • ในช่วงแรกของการฝังยาคุมอาจทำให้ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ หรือมากะปริบกะปรอย หลังจากนั้นอาจจะมาบ้าง หรือไม่มาเลยก็ได้
  • มีผลข้างเคียง เช่น ปวดหัว เป็นสิว น้ำหนักตัวขึ้น อารมณ์แปรปรวน เป็นต้น
  • ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ ต้องใช้อุปกรณ์ป้องกันเอย่างถุงยางอนามัย

 

ผลข้างเคียงของการฝังยาคุมที่คุณควรรู้

 

ผลข้างเคียงของการฝังยาคุม

  1. มีสิว ฝ้า: เป็นอาการของผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้หลังจากฝังยาคุม
  2. น้ำหนักตัวเพิ่ม: ผู้ที่ฝังยาคุมกำเนิดบางราย อาจมีการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักตัวทำให้มีน้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้นได้
  3. ประจำเดือนมาผิดปกติ: ในช่วง 3-6 เดือนแรกของการฝังยาคุม ประจำเดือนจะมาไม่สม่ำเสมอ ประจำเดือนมาผิดปกติ หลังจากนั้นจะมาน้อยลงและประจำเดือนอาจหายไปเลยตลอดที่มีการฝังยาคุม
  4. ประจำเดือนมาบ่อยกว่าปกติ: ในบางรายที่มีการฝังยาคุม อาจมีประจำเดือนมาบ่อย มาทุกวัน หรือมาแต่ละครั้งมานานมากแต่พบได้น้อยมาก
  5. อารมณ์แปรปรวน: ผู้ที่ฝังยาคุมอาจมีอาการอารมณ์แปรปรวนได้
  6. เจ็บเต้านม: อาการเจ็บเต้านม หรือปวดเต้านม เป็นอาการที่ไม่พึงประสงค์ของการฝังยาคุม
  7. เวียนหัว: การฝังยาคุมอาจทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะได้
  8. ช่องคลอดแห้ง: การฝังยาคุมกำเนิดอาจทำให้ช่องคลอดของคุณแม่มีอาการอักเสบหรือแห้งได้

 

การฝังเข็มยาคุม ทำให้อ้วนจริงไหม

คำตอบคือ จริง เนื่องจากการฝังยาคุมทำให้เกิดผลข้างเคียงตามมาในช่วงระยะแรก ในแต่ละรายอาจแสดงอาการที่แตกต่างกัน ส่วนใหญ่พบว่าการฝังยาคุมจะทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือมีประจำเดือนกะปริบกะปรอย และมีน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น หมายความว่า การฝังยาคุมอาจทำให้คุณแม่อ้วนขึ้นได้

 

คุณแม่อยู่ในช่วงให้นมลูก ฝังยาคุมได้ไหม

คุณแม่ให้นมลูกน้อย สามารถฝังยาคุมได้ เนื่องจากการฝังยาคุมเป็นการฝังฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่จะเข้าไปยับยั้งการตกไข่ ทำให้ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ โดยที่ตัวยาหรือฮอร์โมนไม่ส่งผลต่อปริมาณหรือคุณภาพของน้ำนมคุณแม่ ได้ คุณแม่ที่กำลังให้นมและควรขอคำแนะนำจากคุณหมอเพื่อหาวิธีการฝังยาคุมที่เหมาะสมกับคุณแม่มากที่สุด

 

ว่าที่คุณแม่วางแผนจะมีลูก ควรเอาเข็มฝังยาคุมออกตอนไหน

หากคุณแม่กำลังวางแผนที่จะมีลูกและต้องการมีลูกในเร็ว ๆ นี้ คุณแม่สามารถปรึกษาคุณหมอเพื่อให้คุณหมอถอดยาคุมที่ฝังออกให้ได้เลยค่ะ เพราะหลังจากที่คุณแม่เอาเข็มยาคุมออกแล้ว ไข่จะกลับมาตกภายใน 1 เดือน คุณแม่จึงมีโอกาสตั้งครรภ์ได้อีกครั้ง

 

ฝังยาคุมแพงไหม มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง

ค่าใช้จ่ายในการฝังยาคุม อาจมีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันไปตามสถานพยาบาลที่คุณแม่เข้ารับบริการ ดังนั้น ถ้าหากคุณแม่สนใจหรือวางแผนที่จะฝังยาคุม ควรศึกษาหรือขอคำแนะนำจากแพทย์

 

นอกจากนี้ คุณแม่ยังสามารถฝังยาคุมกำเนิดได้ “ฟรี” ตามสิทธิประโยชน์บริการคุมกำเนิดถาวร ภายใต้กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” โดยต้องมีเกณฑ์ ดังนี้

  • เป็นผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 20 ปี และมีความต้องการคุมกำเนิด หรืออยู่ภาวะหลังคลอด หรือหลังแท้ง
  • เป็นผู้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป ใช้สิทธิได้เฉพาะ “กรณีหลังยุติการตั้งครรภ์”

 

ตอนนี้คุณแม่คงเข้าใจเกี่ยวกับการฝังยาคุมกันบ้างแล้ว การฝังยาคุมในช่วงแรกอาจทำให้คุณแม่รู้สึกถึงความผิดปกติของร่างกายไม่มากก็น้อย และอาจจะรู้สึกระคายเคืองบริเวณแผลที่ฝังยาคุม หากในระหว่างที่ฝังยาคุมอยู่คุณแม่รู้สึกไม่สบายตัว หรืออยากกลับมาตั้งครรภ์อีกครั้ง สามารถปรึกษาคุณหมอเพื่อนำยาที่ฝังอยู่ออกเมื่อใดก็ได้เลย อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการฝังยาคุมจะมีประสิทธิภาพสูง แต่ปัญหาสุขภาพบางอย่างอาจทำให้ประสิทธิภาพของการฝังยาลดน้อยลงได้เช่นกัน ดังนั้น คุณแม่ที่มีความสนใจเกี่ยวกับการฝังยาคุม ควรปรึกษาคุณหมอก่อนตัดสินใจเสมอ

 

บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

  • เลือดล้างหน้าเด็กสีอะไร เลือดล้างหน้าเด็กสัญญาณแรกของการตั้งครรภ์
  • 7 วิธีลดหน้าท้องหลังคลอดอย่างปลอดภัย ให้คุณแม่กลับมาเฟิร์มอีกครั้ง
  • โฟเลต คืออะไร อาหารที่มีโฟเลตสูงสำคัญกับคุณแม่ตั้งครรภ์แค่ไหน
  • เบาหวานขณะตั้งครรภ์ อันตรายกับคุณแม่ท้องและลูกในครรภ์อย่างไร
  • คนท้องเท้าบวมเพราะอะไร ปกติหรือไม่ มีวิธีลดบวมยังไงบ้าง
  • คนท้องเป็นกรดไหลย้อนอันตรายไหม คุณแม่มือใหม่รับมือแบบไหนดี
  • คนท้องท้องอืด แก้ยังไงดี พร้อมเมนูอาหารแก้ท้องอืดสำหรับคนท้อง
  • คนท้องปวดหลัง เกิดจากอะไร วิธีดูแลคนท้องปวดหลังพร้อมวิธีแก้ปวด
  • คุณแม่ปวดท้องข้างขวา บอกอะไรบ้าง ปวดท้องแบบไหนต้องไปหาหมอ
  • คุณแม่ปวดท้องข้างซ้าย บอกอะไรได้บ้าง ปวดท้องแบบไหนต้องไปหาหมอ

 

 

อ้างอิง:

  1. “ยาฝังคุมกำเนิด” เรื่องควรรู้และผลข้างเคียงที่ต้องระวัง!, โรงพยาบาลศิครินทร์
  2. รู้จัก..ยาฝังคุมกำเนิด อีกหนึ่งวิธีคุมกำเนิดที่มีความปลอดภัย, โรงพยาบาลนครธน
  3. ยาฝังคุมกำเนิดทางเลือกใหม่ของวัยรุ่น, กรมอนามัย
  4. คุมกำเนิดแบบไหนดี?, โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชหารุณย์
  5. ยาคุมกำเนิดชนิดฝัง, คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
  6. สปสช. ชี้แจง “ฝังยาคุมกำเนิด” สิทธิประโยชน์ฟรี สำหรับหญิงไทยตามกลุ่มเป้าหมายทุกสิทธิการรักษา, สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

อ้างอิง ณ วันที่ 18 กรกฎาคม 2567
 

















































































คุณแม่ตั้งครรภ์






คุณแม่ตั้งครรภ์














แม่ผ่าคลอด






แม่ผ่าคลอด














ดูแลลูกตามช่วงวัย






ดูแลลูกตามช่วงวัย














ภูมิแพ้ในเด็ก






ภูมิแพ้ในเด็ก














แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน






แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน














พัฒนาการสมองลูกน้อย






พัฒนาการสมองลูกน้อย














การขับถ่ายลูกน้อย






การขับถ่ายลูกน้อย














แม่ให้นม






คุณแม่ให้นมบุตร














ตัวช่วยสำหรับคุณแม่






เครื่องมือตัวช่วยคุณแม่ท้อง พร้อมปฎิทินการตั้งครรภ์














อาหารเด็ก






อาหารเด็ก














S-Mom Club พร้อมเคียงข้างทุกช่วงเวลาที่สำคัญของคุณและลูก






S-Mom Club














วิดีโอแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ






วิดีโอแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ














ผลิตภัณฑ์






ข้อมูลผลิตภัณฑ์














โปรโมชั่น






โปรโมชัน



















































ความคิดเห็น

ความคิดเห็น (0)

ยังไม่มีความคิดเห็นสำหรับบทความนี้

โฆษณา

คำนวณฤกษ์แต่งงาน 2568

ปฏิทินไทย

25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
วันอังคาร
Advertisement Placeholder (Below Content Area)