อยากสอนลูกให้เป็นคนดี? คู่มือเลี้ยงลูกยุคใหม่ให้ฉลาดทั้ง IQ EQ SQ

Listen to this article
Ready
อยากสอนลูกให้เป็นคนดี? คู่มือเลี้ยงลูกยุคใหม่ให้ฉลาดทั้ง IQ EQ SQ
อยากสอนลูกให้เป็นคนดี? คู่มือเลี้ยงลูกยุคใหม่ให้ฉลาดทั้ง IQ EQ SQ









































อยากสอนลูกให้เป็นคนดี? คู่มือเลี้ยงลูกยุคใหม่ให้ฉลาดทั้ง IQ EQ SQ
















อยากสอนลูกให้เป็นคนดี? คู่มือเลี้ยงลูกยุคใหม่ให้ฉลาดทั้ง IQ EQ SQ





















































รวมบทความ ทารกแรกเกิด การดูแลเด็กทารกให้ดีที่สุด




















บทความ




















พ.ย. 12, 2025




















10นาที










การเลี้ยงลูกที่ดีไม่ได้มีสูตรตายตัว แต่คุณพ่อคุณแม่ต้องรู้จักปรับวิธีการเลี้ยงลูกให้เหมาะสมกับเด็กแต่ละคนและแต่ละช่วงวัย นั่นคือการเลี้ยงลูกอย่างมีคุณภาพ ซึ่งเป็นสิ่งที่พ่อแม่สามารถมอบเป็นของขวัญล้ำค่าให้แก่ลูกได้ โดยต้องอาศัยความเข้าใจ ความอดทน การเสียสละอย่างสูงและต่อเนื่องยาวนานจนกว่าจะงอกเงยออกผลตามที่คาดหวัง การปกป้องลูกจากสิ่งอันตรายรอบตัวอาจทำได้ไม่ยากมากนัก แต่การทำให้ลูกมีจิตใจที่เข้มแข็ง เป็นเด็กดีและมีพัฒนาการทางสติปัญญาที่ดีไปพร้อม ๆ กันถือเป็นเรื่องไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินกว่าความรัก ความใส่ใจของคุณพ่อคุณแม่ต่อการเลี้ยงลูกให้เติบโตอย่างแข็งแรงทั้งกายและใจ มีความรับผิดชอบ ดูแลตัวเองได้ มีโอกาสประสบความสำเร็จในอนาคต และสามารถที่จะเข้ากับผู้อื่นได้ดีในสังคมยุคใหม่





























เก็บไว้อ่านคราวหน้า





































อยากสอนลูกให้เป็นคนดี? คู่มือเลี้ยงลูกยุคใหม่ให้ฉลาดทั้ง IQ EQ SQ
































































คำถามที่พบบ่อย
































ถ้าลูกไปโรงเรียนแล้วโดนเพื่อนแกล้ง ควรจัดการอย่างไร?







ก่อนอื่นต้องรับฟังความรู้สึกของลูกและให้ความมั่นใจว่าเขาไม่ได้ทำอะไรผิดค่ะ จากนั้นควรแจ้งเรื่องให้คุณครูที่โรงเรียนทราบเพื่อช่วยกันดูแลและแก้ไขปัญหา สอนให้ลูกรู้จักปฏิเสธอย่างหนักแน่น ("อย่าทำเรา") และเดินหนีจากสถานการณ์นั้น ควรปรึกษานักจิตวิทยาเด็กเพื่อช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและทักษะการรับมือให้ลูก























การให้ลูกช่วยทำงานบ้าน มีประโยชน์ต่อพัฒนาการด้านอารมณ์จริงหรือ?







จริงค่ะ การมอบหมายงานบ้านที่เหมาะสมกับวัยจะช่วยให้ลูกรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนสำคัญของครอบครัว, มีคุณค่า, และมีความสามารถ ซึ่งจะช่วยสร้างความภาคภูมิใจในตนเอง (Self-esteem) ได้เป็นอย่างดี และยังเป็นการฝึกความรับผิดชอบด้วย ควรปรึกษาแพทย์หากลูกต่อต้านการทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัวอย่างมาก























ลูกขี้อายมาก ไม่กล้าเข้าหาเพื่อนเลย จะช่วยได้อย่างไร?







อย่ากดดันหรือบังคับลูกค่ะ เริ่มจากการสร้างสถานการณ์เล็ก ๆ เช่น ชวนเพื่อนสนิทมาเล่นที่บ้านทีละคนเพื่อให้เขารู้สึกปลอดภัย หรือพาไปสนามเด็กเล่นแล้วให้เวลาเขาค่อย ๆ สังเกตการณ์ก่อนที่จะเข้าไปเล่นเอง พ่อแม่ควรเป็นแบบอย่างโดยการทักทายคนอื่นอย่างเป็นมิตรให้ลูกเห็น ควรปรึกษาแพทย์หากความขี้อายของลูกรุนแรงจนส่งผลกระทบต่อการไปโรงเรียนหรือการใช้ชีวิตประจำวัน





































สรุป

  • การเลี้ยงลูกให้เหมาะสมในยุคปัจจุบัน ควรมีภูมิคุ้มกันทางจิตใจที่ดี เพื่อให้อยู่ได้ในสังคมยุคใหม่ ด้วยความเคารพตัวเอง และมีความเข้าใจ หรือเห็นอกเห็นใจผู้อื่น รวมถึงการมองโลกในแง่ดี
  • IQ หรือ Intelligence Quotient คือ ความสามารถทางสติปัญญา ซึ่งเป็นการใช้เหตุผล การแก้ไขปัญหา ทักษะความจำ และความสามารถในการเรียนรู้ข้อมูลใหม่ ๆ ส่วน EQ หรือ Emotional Intelligence คือ ความฉลาดทางด้านอารมณ์ ที่เกี่ยวข้องกับความเข้าใจ การจัดการ และการรู้เท่าทันอารมณ์ตนเอง และ SQ หรือ Social Quotient คือ ความฉลาดทางสังคม ทักษะการเข้าสังคม ซึ่งเด็กที่มีพัฒนาการและทักษะด้านต่าง ๆ ที่ดี เกิดจากการเลี้ยงดูเพื่อส่งเสริมด้าน IQ EQ และ SQ อย่างสมดุลเหมาะสม
  • การลงโทษลูกเมื่อทำผิด ต้องเกิดจากความเข้าใจของพ่อแม่ ใช้เหตุผล และต้องไม่ใช้ความรุนแรงซึ่งอาจเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่ลูก

 

เลือกอ่านตามหัวข้อ

  • ทำไมการสอนลูกให้เป็นคนดีและมีทักษะสังคมจึงสำคัญในยุคนี้?
  • รากฐานสำคัญ: พ่อแม่คือ “ครูคนแรก” และแบบอย่างที่ดีที่สุด
  • 14 วิธีสอนลูกให้เป็นคนดี มีความสุข และภูมิใจในตัวเอง
  • เจาะลึกทักษะสำคัญ: การพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์และสังคม (EQ & SQ)
  • การลงโทษ" ลูกอย่างสร้างสรรค์ ดุอย่างไรให้ลูกได้ดี?

 

ทำไมการสอนลูกให้เป็นคนดีและมีทักษะสังคมจึงสำคัญในยุคนี้?

โลกในยุคปัจจุบันล้วนมีแต่ความเร่งรีบ การแก่งแย่งแข่งขัน รวมไปถึงความเจริญด้านวัตถุนิยม เด็กที่เติบโตมาจึงต้องมีภูมิคุ้มกันทางจิตใจที่ดี เพื่อให้อยู่ได้ในสังคมยุคใหม่ ด้วยความเคารพตัวเอง และมีความเข้าใจ หรือเห็นอกเห็นใจผู้อื่น รวมถึงการมองโลกในแง่ดี มองผู้คนในด้านบวกมากขึ้น ทำให้ปรับตัวกับการอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ง่ายและมีความสุข สิ่งสำคัญของการเลี้ยงลูกให้สามารถปรับตัวในการดำรงชีวิตได้ดี คือ การให้ความเอาใจใส่จากพ่อแม่ และครอบครัวตั้งแต่วัยเด็ก ทำให้เด็กรู้สึกมีคุณค่าและมีตัวตน โดยไม่เป็นการตามใจเด็กมากจนเกินไป แต่ให้ลูกค่อย ๆ แสดงศักยภาพบางด้านออกมา ได้ลองพยายามทำบางสิ่งที่สนใจจนสำเร็จ ซึ่งจะช่วยให้ลูกเห็นคุณค่าในตนเอง สร้างจิตใจที่แข็งแรงจนไม่อยากออกนอกลู่ทาง และสามารถปรับตัวอยู่ร่วมในสังคมที่เปลี่ยนแปลงอย่างไวนี้ได้

 

รากฐานสำคัญ: พ่อแม่คือ “ครูคนแรก” และแบบอย่างที่ดีที่สุด

พ่อแม่ นอกจากจะเป็นผู้ให้กำเนิดแล้ว ยังมีหน้าที่สำคัญในการเลี้ยงดูลูก อบรม สั่งสอน มอบความรักความผูกพัน ให้ลูกเติบโตได้อย่างดีทั้งร่างกายและจิตใจ อีกทั้งพ่อแม่ยังสามารถเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ลูก ให้ลูกรู้สึกภูมิใจและอยากดำเนินรอยตาม ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่สามารถนำวิธีการเลี้ยงลูกเหล่านี้ไปปรับใช้กับการเลี้ยงลูกได้ง่าย ๆ

1. เลี้ยงลูกให้เข้าใจความแตกต่างของผู้คน

ควรปลูกฝังให้ลูกยอมรับในความแตกต่างของแต่ละคน ทั้งเรื่องเพศที่มีความหลากหลาย ฐานะแต่ละครอบครัว การศึกษา อายุที่แตกต่างกัน ฝึกให้ลูกรู้จักเห็นอกเห็นใจผู้อื่น และสามารถปรับตัวเพื่ออยู่ร่วมในสังคมได้เป็นอย่างดี

2. เลี้ยงลูกให้เข้าใจอารมณ์ของตนเอง

คุณพ่อคุณแม่สามารถปลูกฝังให้ลูกรู้จักสภาวะอารมณ์ของตนเองได้ตั้งแต่เล็ก ๆ เพื่อให้ค่อย ๆ เรียนรู้วิธีการควบคุมอารมณ์ ไม่ติดนิสัยที่ไม่ดีไปจนโต และพัฒนาไปสู่บุคลิกภาพที่ดีในอนาคต เรียนรู้แนวทางการตัดสินใจและเก็บเป็นประสบการณ์ไปปรับใช้ในครั้งถัดไป

3. ฝึกให้ลูกตัดสินใจด้วยตนเอง

การฝึกให้ลูกเรียนรู้ที่จะลองผิดลองถูกและตัดสินใจด้วยตนเอง เป็นการฝึกให้เด็กคิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่อาจช่วยอธิบายถึงแนวคิดในการคิดวิเคราะห์ปัญหา การแก้ไขปัญหามีอะไรบ้าง และฝึกให้ลูกลองตัดสินใจ ทั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในตนเองให้แก่ลูกได้อีกด้วย

4. เลี้ยงลูกให้มีเหตุผล

การมีเหตุและผลถือเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้เด็กมีความเข้าใจ แยกแยะเรื่องต่าง ๆ ได้จากการรับรู้และรับฟังสิ่งต่าง ๆ

5. เลี้ยงลูกให้รู้จักคิดวิเคราะห์

การคิดวิเคราะห์สามารถนำไปปรับใช้ได้กับหลายเรื่องในการใช้ชีวิต เนื่องจากในยุคสมัยใหม่ล้วนมีข้อมูลข่าวสารมากมาย

6. ฝึกความกล้าแสดงออก

คุณพ่อคุณแม่ควรฝึกให้ลูกกล้าแสดงออกในสิ่งที่ถูกต้อง และช่วยเสริมสร้างความมั่นใจที่ดี

7. เลี้ยงลูกให้รู้จักแสดงความยินดีและความเสียใจ

การสอนให้ลูกรู้จักการกล่าวสวัสดี ขอบคุณ ขอโทษ และแสดงออกต่อผู้อื่นด้วยความจริงใจ

8. เลี้ยงลูกให้มีการสื่อสารที่ดี

การสื่อสารที่ดีและถูกวิธีถือเป็นสิ่งสำคัญและเหมาะสมในการนำไปใช้เมื่อโตขึ้น ทั้งการเรียน การทำงาน และการอยู่ร่วมในสังคม

9. ฝึกการลำดับความสำคัญในชีวิต

ฝึกฝนให้ลูกมีการวางแผนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ในทุกเรื่อง โดยมีการจัดลำดับความสำคัญ ฝึกคิดและลงมือทำตามแผนและขั้นตอนที่ชัดเจน

10. เรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีสมัยใหม่

เทคโนโลยีถือเป็นสิ่งสำคัญกับยุคสมัยนี้ เด็กต้องรู้จักเรียนรู้ที่จะใช้เทคโนโลยีหรือดิจิทัลด้านต่าง ๆ ไปประยุกต์กับสิ่งต่าง ๆ มากมายรอบตัว รวมถึงฝึกฝนการศึกษาค้นคว้าและทดลองทำสิ่งใหม่ ที่อาจต่อยอดเป็นประโยชน์สู่อนาคตได้

 

14 วิธีสอนลูกให้เป็นคนดี มีความสุข และภูมิใจในตัวเอง

การสอนลูกให้เป็นคนดี จิตใจดี มีความสุข และมีความภาคภูมิใจในตนเอง ถือเป็นเป้าหมายหลักของคุณพ่อคุณแม่ที่อยากเลี้ยงลูกให้เกิดคุณภาพเหล่านี้ให้ได้มากที่สุด

1. สอนให้ลูกรู้จักรักตัวเอง

การเห็นคุณค่าในตนเองเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การดำเนินชีวิตในอนาคต มีความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและสังคม ปรับตัวได้ดี และรับฟังความคิดเห็นผู้อื่น รวมถึงการรักตัวเองจะทำให้ใส่ใจในสุขภาพและจิตใจของตนเอง อยากรับแต่สิ่งที่ดีเข้าสู่ร่างกาย และไม่ทำให้จิตใจรู้สึกไม่ดีด้วย

2. สอนลูกให้รู้จักเห็นอกเห็นใจผู้อื่น

การที่สอนให้ลูกรู้จักเห็นอกเห็นใจผู้อื่น จะทำให้เด็กมีความเข้าใจรับมือกับเหตุการณ์ในอนาคตได้ดี ทั้งที่สมหวังและผิดหวัง รวมถึงไม่นิ่งดูดายเมื่อผู้อื่นได้รับความเดือดร้อน รู้จักปลอบโยนผู้อื่น ไม่เอาเปรียบใคร และเป็นที่รักในสายตาของทุกคน

3. ให้ลูกได้มีความภาคภูมิใจในตนเอง

เมื่อลูกทำสิ่งใดสำเร็จหรือทำดี คุณพ่อคุณแม่ควรร่วมชื่นชมและให้กำลังใจลูกอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะทำให้ลูกเห็นคุณค่าในตัวเอง และมีความเชื่อมั่นในการที่จะปฏิบัติตนที่ดีต่อไป

4. ให้ลูกรู้จักหาความสุข

ความสุขของลูก เริ่มต้นจากความรักความผูกพันในครอบครัว การรู้สึกปลอดภัย และความสนุกสนาน ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นพื้นฐานความสุขที่สร้างให้แก่เด็กได้ และช่วยต่อยอดไปสู่ความรับผิดชอบ การจัดการอารมณ์ที่ดี และการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ดี

5. สอนลูกให้รู้จักใช้เหตุผลในการแก้ปัญหา

การใช้เหตุผลในการแก้ปัญหา จะทำให้สุขภาพจิตดีขึ้น เพราะจะเข้าใจถึงสาเหตุของปัญหา วิเคราะห์ปัญหา และปรับปรุงไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้เด็กเติบโตมาอย่างเข้มแข็ง และสามารถก้าวผ่านปัญหาอุปสรรคได้ง่ายดาย

6. สอนลูกให้รู้จักรับผิดชอบและดูแลตนเองได้

คุณพ่อคุณแม่ควรส่งเสริมให้ลูกได้รับผิดชอบตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างเหมาะสมตามวัย เช่น รู้จักดูแลตัวเองเมื่อตื่นนอน อาบน้ำ แปรงฟัน แต่งตัวและรับประทานอาหารก่อนไปโรงเรียน การช่วยเหลืองานบ้าน เป็นต้น การช่วยเหลือและมีความรับผิดชอบต่อตัวเอง เป็นการช่วยเสริมสร้างทักษะในด้านต่าง ๆ ได้ดี

7. สอนลูกให้ฉลาดคิด

ความฉลาดอาจไม่ได้วัดผลจากระดับผลการเรียนของลูกเพียงอย่างเดียว แต่คุณพ่อคุณแม่สามารถสอนลูกให้รู้จักฝึกฝนด้านความจำ เช่น สอบถามเหตุการณ์ต่าง ๆ ในอดีต ช่วยกระตุ้นการจดจำของลูก รวมไปถึงการตั้งคำถามง่าย ๆ หลังเล่านิทานทุกครั้ง ทำให้ลูกฝึกกระบวนการทางความคิด และช่วยพัฒนาด้านภาษาของลูกได้อีกด้วย

8. พาลูกเข้าสังคม

การเข้าสังคมถือเป็นทักษะใหม่ของลูก เพราะสังคมแรกของเขาคือคุณพ่อคุณแม่ เมื่อเขาต้องออกไปเจอ เพื่อนใหม่จึงกลายเป็นสังคมใหม่ คุณพ่อคุณแม่ต้องสอนลูกเรื่อง SQ (Social Quotient) หรือ ความฉลาดทางสังคม เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสังคม และช่วยแก้ปัญหาหากลูกไม่มีเพื่อนหรือเข้ากับเพื่อนไม่ได้ โดยพาลูกออกไปทำกิจกรรมต่าง ๆ นอกบ้าน เปิดโอกาสให้ลูกได้เล่น พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดกับเพื่อน ๆ ซึ่งจะมีส่วนช่วยเสริมสร้างทักษะทางสังคมให้กับลูก ทำให้สามารถปรับตัวเข้ากับผู้อื่นในสังคมได้ และเรียนรู้มารยาทที่ดีในการเข้าสังคมด้วย

9. สอนให้ลูกคิดบวก

การสอนให้ลูกคิดบวก ควรเริ่มจากการเห็นคุณค่าในตนเอง คนที่คิดบวกจะสามารถปรับตัวในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้เป็นอย่างดี และการที่จิตใจดีเข้มแข็งจะช่วยให้ลูกสามารถจัดการกับความเครียด ความวิตกกังวลได้ดีขึ้นกว่าคนที่มองโลกในแง่ร้าย จะส่งผลให้เด็กเติบโตขึ้นมาอย่างมีความสุข และมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จในการเรียนและการทำงานในอนาคต

10. ส่งเสริมลูกให้มีอีคิว EQ

การเลี้ยงลูกให้มี EQ หรือ Emotional Intelligence คือ การที่ทำให้ลูกเข้าใจเกี่ยวกับอารมณ์ รู้เท่าทันความรู้สึกของตนเองและเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น ซึ่ง EQ จะช่วยส่งเสริมทั้งการเรียนรู้ด้านวิชาการ ทักษะการเข้าสังคม และพฤติกรรมด้านต่าง ๆ ได้ดีขึ้น

11. สอนให้ลูกรู้จักอดทนและรอคอย

เด็กที่ไม่มีความอดทน ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ จะกลายเป็นเด็กที่เอาแต่ใจ หัวร้อน และไม่มีใครอยากเข้าใกล้ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ต้องใช้ความอดทนในการเลี้ยงลูก คอยฝึกฝนให้ลูกรู้จักการรอคอย และต้องมีเหตุผลในการอธิบายให้เข้าใจทุกครั้ง

12. เล่านิทานความดีให้ลูกฟัง

หาหนังสือนิทานหรือเล่านิทานให้ลูกฟังคุณพ่อคุณแม่สามารถแต่งเรื่องเล่าด้วยการสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม ความดีให้ลูกฟัง ซึ่งจะช่วยให้เด็กได้มองเห็นภาพและเข้าใจได้มากขึ้น

13.สอนให้ลูกเห็นคุณค่าในตัวเองอยู่เสมอ

การมีตัวตนและเป็นที่ยอมรับ เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้มองเห็นคุณค่าในตัวเองและเกิดความภาคภูมิใจในตนเองหรือที่เรียกว่า Self esteem หากคุณพ่อคุณแม่ช่วยส่งเสริมลูกในด้านนี้ตั้งแต่เล็ก ๆ ก็จะทำลูกมีกำลังใจที่ดี รับรู้ว่าตัวเองมีความสามารถ มีความมั่นใจ พร้อมที่จะเรียนรู้ในสิ่งใหม่ ๆ และมีความรับผิดชอบต่อตนเองและคนในครอบครัว รวมถึงคนรอบข้างและสังคมด้วย

14.ฝึกให้ลูกมีน้ำใจกับคนอื่น

การฝึกให้ลูกมีน้ำใจต่อผู้อื่น รู้จักแบ่งปัน เป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตมาเป็นคนที่ดี นอกจากนี้ยังช่วยให้ลูกกล้าเผชิญกับปัญหา และสามารถรับมือกับอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นได้

 

เด็กเล่นตัวต่อ

 

เจาะลึกทักษะสำคัญ: การพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์และสังคม (EQ & SQ)

EQ หรือ Emotional Intelligence คือ ความฉลาดทางด้านอารมณ์ ที่เกี่ยวข้องกับความเข้าใจ การจัดการ และการรู้เท่าทันอารมณ์ตนเอง ส่วน SQ หรือ Social Quotient คือ ความฉลาดทางสังคม ช่วยเพิ่มทักษะทางสังคมให้ลูก เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสังคม และช่วยให้ลูกเข้ากับเพื่อนได้ดีขึ้น ซึ่งเด็กที่มีพัฒนาการและทักษะด้านต่าง ๆ ที่ดี เกิดจากการเลี้ยงดูเพื่อส่งเสริมด้าน EQ และ SQ ให้เหมาะสมนั่นเอง โดยมีเคล็ดลับที่จะช่วยส่งเสริมทั้งด้าน EQ และ SQ ดังนี้

ส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้

คุณพ่อคุณแม่ควรเลี้ยงดูลูกให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการเรียนรู้สิ่งใหม่อยู่เสมอ เพราะการค้นคว้าเพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่ ฝึกตั้งคำถาม สำรวจ สังเกตสิ่งต่าง ๆ รอบตัว เป็นการช่วยกระตุ้นพัฒนาการทางสมองที่ดี

ฝึกฝนเล่นเกมแก้ปัญหา

การเล่มเกมแก้ไขปัญหา ถือเป็นการเลี้ยงลูกที่ทั้งสนุกสนาน และยังช่วยเพิ่มระดับสติปัญญาในการวิเคราะห์ แก้ไขปัญหา เช่น การต่อจิ๊กซอว์ ช่วยฝึกด้านสมาธิ การสังเกต หรือการเล่นบอร์ดเกม ซึ่งช่วยฝึกการทำตามกติกา แก้ไขปัญหาต่าง ๆ

ปลูกฝังนิสัยรักการอ่าน

การให้เด็กได้อ่านหนังสือตั้งแต่เล็ก ถือเป็นการเพิ่มทักษะทางด้านภาษา ช่วยเพิ่มคลังคำศัพท์ในสมอง ทำให้เด็กมีพัฒนาการการสื่อสารที่ดี รวมไปถึงการฝึกจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์

เรียนรู้ความรู้สึกและอารมณ์

เมื่อเด็กเข้าใจตนเองว่าสภาวะนี้ อยู่ในอารมณ์ใด จะทำให้เด็กมีการจัดการกับอารมณ์ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีความเข้าใจผู้อื่น รับมือกับการเจอสภาวะอารมณ์ต่าง ๆ ได้ดี คุณพ่อคุณแม่จึงควรเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่ให้ลูกได้แสดงความรู้สึก และบอกกล่าวอารมณ์ที่แท้จริง

การควบคุมอารมณ์ที่ดี

คุณพ่อคุณแม่ถือเป็นตัวอย่างที่ใกล้ตัวลูกมากที่สุด การแสดงออกทางอารมณ์ที่รุนแรงอาจทำให้ลูกจดจำและนำไปปฏิบัติได้ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงควรฝึกระงับอารมณ์ และแสดงออกอย่างจริงใจต่อลูก เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดี

ทักษะการอยู่ร่วมกับผู้อื่น

การเลี้ยงลูกให้อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ง่าย ต้องฝึกให้ลูกเข้าใจการแบ่งปัน การเป็นผู้ให้ และคอยช่วยเหลือผู้อื่น

การเข้าใจผู้อื่น

คุณพ่อคุณแม่อาจสอนให้ลูกลองสวมบทบาทเป็นคนอื่นเวลาเจอเหตุการณ์ต่าง ๆ และพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการปฏิบัติตัวในสถานการณ์นั้น ๆ จะช่วยให้ลูกเห็นอกเห็นใจ และเข้าใจความรู้สึกนึกคิดของผู้อื่นอยู่เสมอ

 

"การลงโทษ" ลูกอย่างสร้างสรรค์ ดุอย่างไรให้ลูกได้ดี?

ก่อนอื่นคุณพ่อคุณแม่ต้องเข้าใจลูกก่อนว่า ทำไมลูกถึงต้องทำผิด เกิดจากการควบคุมอารมณ์ไม่ดี ทำตามผู้อื่นโดยไม่ได้ตั้งใจ หรือเป็นการทำเพราะปกปิดความผิดอื่น การลงโทษ หรือการตำหนิลูก ต้องเกิดจากความเข้าใจ ใช้เหตุผล และต้องไม่ใช้ความรุนแรงซึ่งอาจเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่ลูก โดยมีแนวทางให้ไปปรับใช้กับแต่ละครอบครัวดังนี้

  • การตัดสิทธิไม่ให้ทำในสิ่งที่ชื่นชอบหรือสนใจ เช่น การงดดูการ์ตูน การงดออกไปเล่นนอกบ้าน
  • การให้ลูกอยู่ในมุมสงบ ซึ่งมีคุณพ่อคุณแม่คอยเฝ้าดู เป็นพื้นที่ปลอดภัยที่ไม่มีสิ่งรบกวน เพื่อทบทวนอารมณ์ของตนเองที่ไม่สามารถควบคุมได้
  • ฝึกลูกให้รู้จักรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ เช่น ฝึกให้ล้างจานของคนทั้งครอบครัว หรือให้รับผิดชอบงานบ้านมากกว่าปกติที่ได้รับ
  • ในบางครั้งการไม่แสดงความสนใจ ก็อาจเป็นการลงโทษวิธีหนึ่ง ในกรณีที่ลูกเรียกร้องความสนใจและแสดงการกระทำที่ไม่เหมาะสม แต่หากลูกแสดงพฤติกรรมที่ดีขึ้น ก็สามารถกล่าวชื่นชมได้เช่นกัน

 

การเลี้ยงลูกที่ดี มีประสิทธิภาพ พร้อมเสริมสร้างพัฒนาการทางสมองและอารมณ์ รวมถึงทักษะในการเข้าสังคมต่าง ๆ นั้น สามารถเสริมสร้างควบคู่กับการให้ร่างกายได้รับโภชนาการที่ดีเพียงพอ ด้วยสารอาหารสำคัญเพื่อพัฒนาสมองอย่าง DHA ARA โคลีน (Choline) แกงกลิโอไซด์ (Ganglioside) และ แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน (Alphalac Sphingomyelin) มีส่วนช่วยส่งเสริมระบบประสาท ช่วยให้สมองสื่อสารได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ลูกน้อยเรียนรู้ และพัฒนาได้เต็มศักยภาพตั้งแต่ช่วงแรกของชีวิต เพื่อให้เด็กเจนใหม่ สร้างสมองไว ได้มากกว่าที่แม่คิด

 

บทความแนะนำสำหรับคุณแม่มือใหม่

  • โจ๊กเด็ก เมนูเริ่มต้นสำหรับลูกน้อย มีประโยชน์ ช่วยเสริมโภชนาการลูก
  • อาหารเด็ก 6-12 เดือน อาหารเด็กทารก ทำตามง่าย พร้อมวิธีทำ
  • เด็กขาดธาตุเหล็ก เกิดจากอะไร อาการเด็กขาดธาตุเหล็กป้องกันได้
  • อาหารเสริมภูมิคุ้มกันเด็ก ช่วยให้ลูกสุขภาพดี มีภูมิคุ้มกัน
  • อาหารเสริมเด็ก อาหารตามวัยสำหรับลูกน้อย ตัวช่วยเสริมภูมิคุ้มกันลูก




































อ้างอิง:











  1. เลี้ยงลูก เลี้ยงกาย อย่าลืมเลี้ยงใจ, โรงพยาบาลมนารมย์
  2. 10 แนวทางการสอนลูกให้มีทักษะชีวิต, British Council ประเทศไทย
  3. เสริมสร้างความรู้สึกเห็นคุณค่าในตนเอง, โรงพยาบาลมนารมย์
  4. สอนลูกให้เห็นอกเห็นใจผู้อื่น (Empathy), มูลนิธิยุวพัฒน์
  5. 6 เทคนิคเลี้ยงลูกให้มีวินัย, สถาบันราชานุกูล กรมสุขภาพจิต
  6. เพราะความสุขของลูก คือความสุขของพ่อแม่, โรงพยาบาลพญาไท 3
  7. เลี้ยงลูกวัยกำลัง “จำ”...ทำยังไงให้ฉลาด, โรงพยาบาลพญาไท
  8. 7 เคล็ดลับพัฒนา IQ และ EQ ลูกน้อยให้มีพัฒนาการ ฉลาดทั้งวิชาการและด้านอารมณ์, PBISS International School
  9. เมื่อลูกทำผิด ควรลงโทษอย่างไร, คลังความรู้สุขภาพจิต กรมสุขภาพจิต

อ้างอิง ณ วันที่ 5 ตุลาคม 2568
 















































































คุณแม่ตั้งครรภ์






คุณแม่ตั้งครรภ์














แม่ผ่าคลอด






แม่ผ่าคลอด














ดูแลลูกตามช่วงวัย






ดูแลลูกตามช่วงวัย














ภูมิแพ้ในเด็ก






ภูมิแพ้ในเด็ก














แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน






แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน














พัฒนาการสมองลูกน้อย






พัฒนาการสมองลูกน้อย














การขับถ่ายลูกน้อย






การขับถ่ายลูกน้อย














แม่ให้นม






คุณแม่ให้นมบุตร














ตัวช่วยสำหรับคุณแม่






เครื่องมือตัวช่วยคุณแม่ท้อง พร้อมปฎิทินการตั้งครรภ์














อาหารเด็ก






อาหารเด็ก














S-Mom Club พร้อมเคียงข้างทุกช่วงเวลาที่สำคัญของคุณและลูก






S-Mom Club














วิดีโอแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ






วิดีโอแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ














ผลิตภัณฑ์






ข้อมูลผลิตภัณฑ์














โปรโมชั่น






โปรโมชัน




















































ความคิดเห็น

ความคิดเห็น (0)

ยังไม่มีความคิดเห็นสำหรับบทความนี้

โฆษณา

คำนวณฤกษ์แต่งงาน 2568

ปฏิทินไทย

25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
วันอังคาร
Advertisement Placeholder (Below Content Area)